กลับมาแล้ว!5ประเด็นต้องจับตาพรีเมียร์ฯรีสตาร์ท

เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจ พรีเมียร์ลีก รีสตาร์ท

ตั้งแต่วันพุธนี้ อาทิ ลิเวอร์พูล มีโอกาสฉลองแชมป์ได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกเลย หรือบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 เตรียมจะกลับมาแข่งกันต่อตั้งแต่วันพุธที่ 17 มิถุนายนนี้ หลังต้องหยุดไปนานกว่า 3 เดือนเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ในวันแรกจะมีเตะ 2 คู่คือ แอสตัน วิลล่า พบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล แล้วหลังจากนั้นจะไล่เตะกันอย่างถี่ยิบ และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจของการรีสตาร์ท 1. ลิเวอร์พูล อาจคว้าแชมป์ตั้งแต่นัดแรก เจอร์เก้น คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล นำโด่งเป็นจ่าฝูง ทิ้ง แมนฯ ซิตี้ ไปถึง 25 คะแนน ทำให้น่าจะไม่พลาดกับการกลับมาครองแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี หาก แมนฯ ซิตี้ เกิดแพ้ อาร์เซน่อล แล้ว ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน ในเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ วันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. นี้ ก็จะทำให้ "หงส์แดง" ผงาดคว้าแชมป์ทันที 2. เชฟฯ ยูไนเต็ด จะปาดหน้ายักษ์ใหญ่ไปเล่นบอลยุโรปได้หรือไม่ คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม เชฟฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับการพา "ดาบคู่" ขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นปีแรก โดยก่อนที่ลีกระงับไปนั้น รั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 43 คะแนนจาก 28 นัด

เชฟฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นถึงขั้นได้ไปเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

เพราะเวลานี้ทีมอันดับ 4 คือ เชลซี มี 48 คะแนน จาก 29 เกม ทำให้หาก "ดาบคู่" เก็บ 3 แต้มในเกมตกค้างได้ก็จะตาม "สิงห์บลูส์" เหลือแค่ 2 คะแนนเท่านั้น เชื่อว่า การแย่งชิงตั๋วไปเล่นบอลยุโรปจะมีความเข้มข้น เพราะบรรดายักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่างก็หวังคว้าโควตาให้ได้เหมือนกัน

3. ศึกหนีตายระอุ-นอริชหนักสุด ในเวลานี้ นอริช ซิตี้ รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง และมีโอกาสตกชั้นสูง หลังเพิ่งมีแค่ 21 คะแนนเท่านั้นจากการลงเตะ 29 นัด ทำให้ "เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน" ต้องพยายามคว้าชัยชนะให้ได้มากที่สุดกับ 9 เกมที่เหลือ นอริช ยังมีโปรแกรมที่จะต้องเจอกับทีมในโซนหนีตายทั้ง ไบรท์ตัน, วัตฟอร์ด และ เวสต์แฮม ทำให้เกมเหล่านี้มีค่าเหมือนกับว่าได้ถึง 6 คะแนนเลยทีเดียว ขณะที่ บอร์นมัธ กับ แอสตัน วิลล่า ที่รั้งอันดับ 18 และ 19 มี 27 และ 25 คะแนนตามลำดับ ทำให้ยังมีลุ้นอยู่รอดได้อยู่ เพราะทีมที่เหนือขึ้นไปอย่าง วัตฟอร์ด กับ เวสต์แฮม มี 27 คะแนน หรือ ไบรท์ตัน ที่มี 29 คะแนน 4. ดาวซัลโวสูสี ในฤดูกาลที่แล้ว ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ตกเป็นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ สองแนวรุก ลิเวอร์พูล และ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง กองหน้า อาร์เซน่อล ที่ทำได้ 22 ประตูเท่ากัน ขณะที่ในซีซั่นก็ยังมีความสูสี trigsol.com โดย เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอก เลสเตอร์ นำอยู่ที่ 19 ประตู ตามมาด้วย โอบาเมยอง (17), ซาลาห์ (16) และ เซร์คิโอ อเกวโร่ (16) นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายรายที่มีโอกาสเบียดขึ้นมาได้เหมือนกันอย่าง แดนนี่ อิงส์ ของ เซาธ์แฮมป์ตัน (15), มาเน่ (14) และ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด (14) 5. บรรยากาศไม่เหมือนเดิม บรรยากาศการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก คงไม่เหมือนเดิมแน่ หลังโควิด-19 ทำพิษ เพราะจะไม่มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ในสนาม ทำให้ความได้เปรียบของเจ้าบ้านลดลงไปเยอะ

นอกจากนั้น หลังทำประตูกันได้แล้วนั้น นักเตะก็จะไม่ได้เข้ามาร่วมฉลองกันสุดเหวี่ยงเหมือนเดิม โดยอาจดีใจกันแค่แตะข้อศอก ขณะที่ก่อนเกมและหลังเกมจะไม่มีการจับมือกัน อีกทั้งกฎกติกาก็มีเปลี่ยนกันไปบ้างอย่างส่งตัวสำรองลงสนามได้เพิ่มจาก 3 เป็น 5 คน และสามารถมีผู้เล่นสำรองที่อยู่ข้างสนามเพิ่มจาก 7 เป็น 9 คนด้วย