top of page
Search

ขวัญใจมวยไทย มวยโลก สด จิตรลดา แชมป์โลกชาวไทยคนที่ 8 สภามวยโลก (WBC)

  • mynxwinter22
  • Dec 18, 2019
  • 2 min read


เอ่ยชื่อ ‘สด จิตรลดา’ หลายคนยังคงจดจำอดีตแชมป์โลกฟลายเวท WBC สองสมัยรายนี้ได้ดี เพราะ ‘บังเชาว์’ ถือเป็นขวัญใจชาวไทยที่ ‘ดัง’ เอาการในยุคที่ศึกแชมป์โลกมวยสากลอาชีพ ยังเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์รายวันบ้านเรา แต่จะมีใครสักกี่คนยังรำลึกได้ถึงเรื่องราวความเป็นมาที่ทำให้ ‘สด’ ต้องเปลี่ยนสถานะอย่างปุบปับ จาก ‘เชาวลิต ศิษย์พระพรหม’ นักมวยไทยรุ่นไอ้แอ้ดชั้นดีกลายมาเป็นรองแชมป์โลก WBC โดยไม่เคยผ่านการชกมวยสากลอาชีพมาก่อนหน้านั้นเลยแม้สักไฟท์เดียว!?!


สาเหตุความนัยดังกล่าว เกี่ยวพันอย่างยิ่งกับนักมวยอีกรายหนึ่ง ผู้มีชื่อว่า ‘มันส์ ส.จิตรพัฒนา’ ซึ่งเราจะค่อยๆ ไล่เรียงเรื่องราวอันเป็นตำนานพิสดารของวงการกำปั่นเมืองไทยนี้ให้คุณๆ ผู้อ่านได้รับทราบกัน โดยเริ่มต้นที่เจ้าของนาม ‘มันส์’ เป็นอันดับแรก


มันส์ ส.จิตรพัฒนา มีชื่อจริงว่า นิพนธ์ ภูสทด เกิดที่ อ. เมือง จ. กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2503 เจ้าตัวสนใจเรื่องชกต่อยมาแต่สมัยนมเพิ่งแตกพาน โดยเริ่มหัดมวยกับ ครูมณเฑียร สิงห์เพชร อดีตนักมวยเก่าที่ไปตั้งค่ายฝึกมวยให้เด็กๆ อยู่แถวบ้าน ซึ่งไอ้หนู นิพนธ์ ก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์และเริ่มชกหาประสบการณ์ตามเวทีงานวัดตามธรรมเนียม ด้วยมีเชิงดุดันทันใจ อาวุธรุนแรงโดยเฉพาะกำปั้นขวาหนัก-ชนิดสั่งได้ ผลงานการผ่านสังเวียนยุคแรกๆ จึงชนะติดต่อกันสิบกว่าไฟท์ โดยไม่เคยแพ้ใครเลย


จนกระทั้งเกิดไปรู้จักกับ ยอดฉัตร ส.จิตรพัฒนา มวยระดับแชมป์เวทีมาตรฐานเมืองกรุง ไอ้หนูนิพนธ์จึงขอติดสอยห้อยตามมาอยู่ด้วย หวังจะมีโอกาสโด่งดังกับเขาบ้าง ยอดฉัตร ก็พาไปฝากไว้กับ สาโรจน์ แก้วรอด ที่ค่าย ส.จิตรพัฒนา ทำการฟิตซ้อมปรับเชิงอยู่พักใหญ่ สาโรจน์เห็นไอ้หนูเมืองน้ำดำเป็นคนห่ามๆ ห้าวๆ ประกอบกับตอนนั้นมีหนังไทยเรื่อง ‘มันส์’ ออกฉายประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้คำว่า ‘มันส์’ ที่เติม ส.เสือการันต์ กลายเป็นศัพท์ใหม่ที่ผู้คนใช้กันเกร่อ สาโรจน์จึงตั้งชื่อนักมวยให้ลูกศิษย์ป้ายแดงรายนี้ซะเรี่ยมเร้ว่า มันส์ ส.จิตรพัฒนา พร้อมกับส่งขึ้นชิมลางสังเวียนเมืองกรุงครั้งแรกที่เวทีลุมพินี เมื่อปลายปี 2520


แต่การชกประเดิมเวทีใหญ่หนนั้น จบลงอย่างน่าผิดหวังสิ้นดี เพราะมันส์เป็นฝ่ายโดน วิชิตน้อย ไกรเกรียงยุค มวยเด็กกระทงด้วยกัน เตะเด้งหน้าเด้งหลังเข้าไม่ติดพ่ายคะแนนกลับลงมาหมดท่า


เท่านันยังไม่พอ ยอดชายนายมันส์ถูกส่งขึ้นชกอีก 5 ไฟท์ ปรากฏว่าไม่มีครั้งใดจะคว้าชัยได้สำเร็จเลย-แพ้ยันตะบันราดทั้ง 5 ไฟท์ ‘แวว’ ที่เคยมีสมัยต่อยเวทีบ้านนอกไม่ปรากฏให้เห็นสักแอะ หัวหน้าคณะถึงกลับส่ายหัวเดียะบอกเอ็งเก็บเสื้อผ้ากลับกาฬสินธุ์ดีกว่า (วะ)


มันส์กลับถิ่นเกิด แล้วดอดขึ้นชกหารายได้เล็กๆ น้อยไปเรื่อยเปื่อย ปรากฏว่าฟอร์มการชกดันแจ่มจรัสขึ้นมาอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ เพราะคว้าชัยชนะเป็นว่าเล่น จนเจ้าตัวเริ่มมีกำลังใจแล้วย่องกลับมาที่ค่าย ส.จิตรพัฒนา ขอโอกาสอีกสักทีเถอะ สาโรจน์ทนรำคาญ…เอ๊ย อดเห็นใจไม่ได้ เลยยอมเสนอชื่อมันส์ขึ้นเวทีเมืองกรุงอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ไม่ยักแป้ก เพราะเจ้ามันส์เก่งขึ้นเป็นคนละคน ต่อยชนะมากกว่าแพ้ จนไต่เพดานขึ้นมาเป็นมวยมีระดับในรุ่น 108-112 ปอนด์ ของเวหามวยเมืองไทยอย่างเต็มภาคภูมิ


คู่ชกคนสำคัญที่ขับเคี่ยวกับ มันส์ ส.จิตรพัฒนา ในห้วงปี 2522-2524 ได้แก่ สำราญศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ซึ่งตอนที่เจอกันนั้น ‘บักราญ’ ยังเป็นดาวรุ่งเข่าเหนียวธรรมดา ยังไม่ใช่ ‘ไอ้หมัดสากเหล็ก’ ผู้โด่งดัง จึงตกเป็นฝ่ายพ่ายแต้มให้มันส์อย่างขาดลอย นอกจากนี้ก็มี ‘ไอ้หมัดหิน’ มะเฟือง วีระพล ที่ขึ้นทำศึกเดิมพันหลายแสนบาท ปรากฏว่ามันตกเป็นฝ่ายพ่ายแต้มลงมาโชกโชน, ส่วนที่ตกเป็นเหยื่อให้มันส์ ได้แก่ อภิรักษ์ สิงห์โบ๊เบ๊, ผาดำ ลูกบางบ่อ, จอม คาลเท็กซ์สว่าง และกระทั้ง ‘บักเมี่ยง’ อรชุนน้อย ฮ.มหาชัย ด่านหินของนักมวยดาวรุ่งรุ่นเล็กยุคนั้น ก็ล้วน ‘เสร็จ’ ให้มันส์ทุกรายยิ่งกับ สรณะ เกียรติศักดิ์คงคา, ยอดขุนศึก เกียรติสิงห์น้อย, เพชรมงคล เกียรติสิงห์น้อย กลุ่มนี้ไม่ได้แพ้ธรรมดา แต่เจอกำปั้นไอ้หนุ่มเมืองน้ำดำถึงตาตั้งไปก่อนครบยก โดยเฉพาะ ‘อดีตแชมป์’ เพชรมงคลนั้น ตามมาขอแก้มือก็โดนน็อคซ้ำสอง-เข็ดขี้อ่อนขี้แก่ไปเลย


อย่างไรก็ตาม กับคู่ต่อสู้บางราย มันส์ก็ต้องลงเวทีในฐานะผู้ปราชัย อาทิเช่นการชกกับ จ๊อก เกียรตินิวัฒน์, ฟ้าอุทัย พิษณุราชันย์, ครองศักดิ์ ศักดิ์เกษม, ผล ศิษย์พ่อแดง แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจะได้แก่ การโดนไล่ลงในคราวที่ชกกับ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ เมื่อปี 2525


ระหว่างที่กำลังรอจังหวะให้พ้นโทษถูกไล่ลงอยู่นั่นเอง มันส์ได้การทาบทามจาก ‘บิ๊กอึ่ง’ สมภพ ศรีสมวงษ์ ที่กำลังส่องสุมนักมวยสากลฝีมือดีเข้าสังกัดเพื่อปลุกปั้นให้เป็นแชมป์โลกอย่างจริงจัง โดยมี พงษ์พันธ์ ศ.พญาไท กับ พเยาว์ พูนธรัตน์ เป็นหัวเชื้อหลัก ส่วนมันส์ถือเป็นนักมวยไทยที่ ‘บิ๊กอึ่ง’ เล็งมานานเพราะเห็นอิทธิฤทธิ์พลังกำปั้นและลีลาการชก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะปรับให้มาเอาดีในแบบสากลได้ไม่ยาก แต่เพิ่งจะสบโอกาสเหมาะที่จะชักชวนก็อีตอนว่างโปรแกรม จากสาเหตุ ‘ถูกไล่’ นี่เอง

ปรากฏว่าทางสาโรจน์-ลูกพี่นั้นเห็นดีเห็นงามกับการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหวังลุยบัลลังก์โลกอย่างเต็มที่ พลอยให้มันส์ต้องตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ทั้งที่ใจจริงก็ไม่ได้พิศวาสการสวมรองเท้าชกสักเท่าไหร่


อย่างไรก็ตามในไฟท์แรกของการทดสอบชกมวยสากลอาชีพซึ่ง ‘บิ๊ก อึ่ง’ จัดให้เจอกับ นุ่น ศ.พญาไท เด็กในสังกัดของตนเอง ผู้มีดีกรีของแชมป์สากลลุมพินีอยู่ในขณะนั้น มันส์สามารถโชว์ฟอร์มได้เข้าตา ด้วยการไล่อัดนุ่นม่อยกระรอกไปแค่ยกแรก ก็ทำเอากลุ่มผู้สนับสนุนดีดนิ้วเปาะ พร้อมกับเตรียมแผนงานสร้างสรรค์นักชก กำปั้นหนักให้ทะลุทะลวงเป้าหมายแชมป์โลกโดยเร็วที่สุด


จากนักมวยไทยมีระดับ มันส์ ส.จิตรพัฒนา ก็กลายเป็นมวยสร้างในทีมงานของคนโตช่อง 7 สี เต็มตัว โดยถูกจัดให้ขึ้นชกสร้างกระดูกสากลอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการคว่ำ พิชิตศึก ก.อู่สยาม ยก 5, ชนะน็อค พรนารายณ์ เกียรติมานะ ยก 2, ก้าวขึ้นทาบรัศมี ภาคใต้ ลิโพวิตันดี อดีตมวยสร้างอีกรายของ ‘บิ๊กอึ่ง’ ซึ่งก็ยังเป็นมันส์ที่คว้าชัยชนะได้ด้วยคะแนนหายห่วง, ต่อด้วยการจ้วงเอาอดีตรองแชมป์โลกชื่อดังอย่าง มนต์สยาม ฮ.มหาชัย หงายท้องไปในยกที่ 4


ชัยชนะในแบบสากล 5 ไฟท์รวดติดต่อกัน ส่งให้มันส์ ส.จิตรพัฒนา เริ่มเป็นที่สนอกสนใจแฟนกีฬาหมัดมวยเมืองไทยในฐานะความหวังที่จะกระชากมงกุฎโลกกลับสู่ดินแดนขวานทอง เนื่องด้วยการมวยบ้านเรา-ณ ขณะนั้น ร้างตำแหน่งแชมป์โลกมาเป็นเวลา 3 ปีเต็ม หลังจาก แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ไปเสียเข็มขัดให้นักชกเกาหลีตั้งแต่ปี 2521


ทางด้าน ‘บิ๊กอึ่ง’ สมภพ ศรีสมวงษ์ ซึ่งกำลังดำเนินสัมพันธไมตรีอย่างยิ่งกับ ‘ป๋าโฮ’ โฮเซ่ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (WBC) ก็ไม่รอช้า ส่งชื่อพร้อมสถิติการชกของมันส์เข้าที่ประชุม WBC เพื่อพิจารณาเข้าอันดับโลกรุ่น 108 ปอนด์ทันที


ระหว่างนั้น ทางทีมงานผู้สนับสนุนก็วางโปรแกรมชกเพิ่มพูนบารมีให้มันส์อย่างต่อเนื่อง เพราะหนก่อนขนาด ‘ไอ้สวย’ มนต์สยาม ที่เคยขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก 108 ปอนด์ WBA จาก โยโกะ กูชิเก้น มาแล้ว ยังถูกมันส์ถลุงแดดิ้นไปไม่ทันถึงครึ่งทางของการชกกำหนด 10 ยก ฉะนั้น ในยุทธจักรกำปั้นล้วนๆ ของเมืองไทย ไอ้หนุ่มหมัดหนักจากเมืองน้ำดำ จึงไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงใครอีกเลย


‘เสือเตี้ย’ เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ อดีตแชมป์โลกรุ่น 108 ปอนด์ WBC ถูกติดต่อมาเป็นคู่ต่อสู้รายต่อไปของมันส์ โดยการชกถูกจัดขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2525 ณ สังเวียนราชดำเนิน ก่อนเกมตะบันใครๆ ก็คาดว่ามันส์น่าจะผ่านสะดวก เพราะห้วงเวลาดังกล่าว ‘เสือเตี้ย’ เพิ่งผิดหวังอย่างแรงจากการขึ้นชิงบัลลังก์แชมป์ 108 ปอนด์เส้นเดิมที่เคยครอง โดยถูก ‘ไอ้กระยางดำ’ ฮิลาริโอ ซาปาต้า แชมป์โลกผิวหมึกจากปานามาถลุงพ่ายหมดทางสู้ลงมาในยกที่ 10 เมื่อปลายปี 2524 ที่โคราช เรียกว่าร่องรอยความบอบซ้ำยังไม่หายสนิทดี พลอยให้ผู้สันทัดกรณีอ่านเกมลึก ‘ลึก’ เลยเถิดไปไกลถึงขนาดว่า เนตรน้อยอาจจะ ‘หมดไฟ’ และเผลอๆ จะไม่อยากชนะในไฟท์นี้เอาซะด้วย


รับชมข่าวสารวงการกีฬาต่อได้ที่ blogsoldiers.com

 
 
 

Commentaires


Post: Blog2_Post

Subscribe Form

Thanks for submitting!

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn

©2019 by UFABET369. Proudly created with Wix.com

bottom of page