top of page
Search

ปลุกของให้ดี 3 นัดอาจชี้ชะตาเก้าอี้ "โค้ชโอ่ง"

  • mynxwinter22
  • Aug 20, 2020
  • 2 min read

หลังลีกลูกหนังเมืองไทยทุกลีกโดนผลกระทบจากไวรัสอันตราย โควิด -19 จนต้องพักเบรกยาวไปตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา


และแน่นอนแล้วว่า จะกลับมาเตะกันใหม่ ตั้งแต่ 12ก.ย. 2563 เป็นต้นไป แน่นอนว่า 11 เกมที่เหลือของเลกแรก จะถือเป็นเกมที่มีความหมายอย่างมากต่อทุกทุกทีมโดยเฉพาะกลุ่มทีมชั้นนำ บิ๊กเนม ทั้งหลายที่มีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการไปเล่น ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ในฤดูกาล 2021 ปี พ.ศ. 2564ให้ได้


โดยก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้ประกาศมาแล้วว่า โควตาของสโมสรจากไทย ที่จะได้เล่น ฟุตบอล เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2021 นั้นจะได้ 4 ทีม ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะให้สิทธิกับทีมที่จบอันดับ 1-4 ในเลกแรกของไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020 นี้ได้เข้าร่วม อันดับ 1-2 จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ และอันดับ 3-4 ต้องไปฝ่าฝันในรอบเพลย์ออฟ 2 นัดเพื่อลุ้นเข้าเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ถึงบอกว่า อีก 11 นัดของทั้ง 16 ทีมในเลกแรกของไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020 นี้มีความหมายอย่างยิ่งยวด หากหวังจะไปฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก 2021 ก็ต้องให้ตัวเองจบอันดับ 1-4 ในเลกแรก ฤดูกาล 2020 นี้ให้ได้ ที่ผ่านมาช่วงไทยลีกพักเบรกจะเห็นได้ว่า มี 2 ทีมที่ทุ่มระห่ำเสริมทัพสวนกระแสเศรษฐกิจฝืดเคืองด้วยการจัดใหญ่ นำนักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บ 2 ทีมที่ว่า คือ การท่าเรือฯกับ บีจีปทุม ยูไนเต็ด แน่นอนว่าผู้บริหาร 2 ทีมที่ว่า มีธงชัดเจนว่า หวังได้ไปเล่น เอซีแอล ให้ได้ ถ้าโฟกัสที่ "กระต่ายแก้ว" บีจีปทุม ยูไนเต็ด หรือ บางกอกกล๊าส เอฟซี เดิม การที่ก่อนหน้านี้เสริม สารัช อยู่เย็น จาก เอสซีจี เมืองทองฯ รวมถึง อันเดรส ตูเญช กองหลังจากบุรีรัมย์ฯ เข้าไปทำให้หลายคนมองว่า พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมามาก เมื่อได้ 2 รายที่ว่าไปเสริมเขี้ยวเล็บ ล่าสุดจาก 4 นัดที่ผ่านมานั้น บีจีปทุมฯ อยู่อันดับ 4 นั่นหมายถึงยังอยู่ในพื้นที่โควตา ไป เอซีแอล ได้ จากผลงาน 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร มี 10 แต้มเท่ากับ การท่าเรือฯ อันดับ 3 และตามหลัง อันดับ 1- 2 อย่าง ทรูแบงค็อกฯ กับ ราชบุรีฯ อยู่ 2 แต้ม


dbesoftware.com

ดูจากผลงาน 4 นัดอย่างไรซะก็ต้องยกให้ บีจีปทุมฯ เป็นอีก 1 ทีมเต็งที่มีลุ้นตั๋วไปลุย เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2021


ส่วนจะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มเลยหรือไม่หรือจะต้องเล่นรอบเพลย์ออฟก่อน อีก 11 นัดเลกแรก จะเป็นคำตอบ แต่ช้าก่อน หากจะฟันธงว่า "กระต่ายแก้ว" จะได้ไปโชว์ฝีเท้าในเวทีชิงแชมป์สโมสรเอเซีย ก็ดูจะเร็วเกินไป เพราะหลังจากไทยลีกคัมแบ็คกลับมาเตะ 12 ก.ย. 63 นี้แล้ว น่าจะเป็นบททดสอบอย่างดีที่สุดของ พวกเขา ว่า ดีพอหรือไม่ กับการจะได้ไปเล่น แชมป์เปี้ยนลีกของเอเชีย

อดีตที่ผ่านมา บีจีปทุม ฯ ที่ปี 61 ตกชั้นจากไทยลีก ไปเล่นลีกรอง มา 1 ฤดูกาล ในปี 2019 ที่ผ่านมา แต่แค่ปีเดียวก็หวนกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้ง ในฤดูกาล 2020 นี้ในฐานะแชมป์ลีกรอง เมื่อปีที่ผ่านมา เคยเป็นแชมป์ ควีนส์คัพ , สิงคโปร์ คัพ , เอฟเอคัพ มา แต่กับไทยลีก และรายการอื่นๆยังไม่ไปไม่ถึง โดยเมื่อปี 2015 หลังจากพวกเขาได้แชมป์ เอฟเอคัพ ทำให้ได้เล่นฟุตบอลชิงแชมป์สโมสร เอเชีย มาแล้ว 1 ครั้ง กับรายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก นั้น ก็ไม่ไปไม่ถึงดวงดาว ตกรอบเพลย์ออฟ ด้วยผลงาน นัดแรก ชนะ ยะโฮร์ ( มาเลเซีย ) 3-0 (ห ) ก่อนจะบุกแพ้ ปักกิ่ง กั๋วอัน ( จีน ) 0-3 (ย ) 4 ปี มาแล้วที่ ชื่อของ "กระต่ายแก้ว" ไม่ได้อยู่ในสารบบของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเซีย ปีนี้ "บิ๊กปี๊ป" ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร หวังจะพาทีมไปเล่นถ้วยเอเชียให้ได้อีกหน นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ทีมสตาฟฟ์โค้ชทุกคน รู้ดี หลังไทยลีกคัมแบ็คกลับมาฟาดฟันกันในเดือน ก.ย. 2563 ที่รออยู่นั้น ขุนพล บีจีปทุม ยูไนเต็ด รวมถึงตัวกุนซือใหญ่ อย่าง "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน ต้องเจอกับงานสุดหินภาระหนักอึ้ง ที่จะเป็นเหมือนบททดสอบว่าพวกเขาจะดีพอและคู่ควรในการได้ไปเล่น เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีกได้หรือไม่ เกม 3 นัดหลังไทยลีกคัมแบ็ค นัดที่ 5-7 ถือว่าสาหัสสากรรจ์กับ "กระต่ายแก้ว" แน่นอน ดีไม่ดี 3 นัดนี้อาจเป็นตัวแปรชี้วัดอนาคตกับตั๋ว เอซีแอลของ บีจีปทุม ฯ เลยก็ว่าได้ dbesoftware.com นัดที่ 5 พวกเขา จะเปิดบ้านเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ,นัดที่ 6 ไปเยือน ทีมเต็งแชมป์อย่าง การท่าเรือฯ , นัดที่ 7 ต้องไปเยือน เต็งแชมป์อีกทีมอย่าง ทรูแบงค็อกฯ หากได้สัก 6 แต้ม จาก 3 นัดที่ว่า นั่นคือ ชนะ 2 เกม หรือ ชนะรวด หรือ ชนะ 2 เสมอ 1 ก็ไม่น่าจะพลาดในการจะจบอันดับได้ไปลุยบอลถ้วยเอเชีย ปี 2021 ที่จะเอาผลงานแค่เลกแรก ปี 2020 นี้


ผู้บริหารทีม "กระต่ายแก้ว" เองก็คงหวังเช่นนั้น ส่วนท้ายที่สุดแล้ว นักเตะทุกคนในทีม , ทีมงานผู้ฝึกสอนที่นำโดย "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน จะทำได้หรือไม่ ต้องรอลุ้นกัน แต่หากทั้ง 3 เกมจบด้วยการไร้แต้มติดมือเลย ไม่แน่ อนาคต ของกุนซือใหญ่อย่าง "โค้ชโอ่ง" ต้องมีหนาวๆร้อนๆแน่นอน ทีมลงทุนสูง เป้าหมายสูง หากผลงานไม่ดีก็ต้องมีคนรับผิดชอบเป็นเรื่องธรรมดา ในโลกของคำว่า ฟุตบอลอาชีพ

 
 
 

Comments


Post: Blog2_Post

Subscribe Form

Thanks for submitting!

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn

©2019 by UFABET369. Proudly created with Wix.com

bottom of page