'มู'เคืองสไนเดอร์หลุดท็อปทรีบัลลงดอร์10ปีก่อน
- mynxwinter22
- May 25, 2020
- 1 min read
Updated: May 30, 2020
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ สเปอร์ส ยังคาใจไม่หายที่ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ อดีตจอมทัพทีมชาติฮอลแลนด์ ไม่ติดแม้กระทั่ง 3 คนสุดท้ายในการลุ้นบัลลงดอร์ปี 2010 ทั้งที่ฟอร์มเด่นทั้งสโมสรและทีมชาติ
ในฤดูกาล 2009/10 ที่ มูรินโญ่ คุม อินเตอร์ มิลาน หนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานสุดยอดจนช่วยให้ทีมคว้า 3 แชมป์อย่างยิ่งใหญ่คือ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ดาวเตะชาวดัตช์ นอกจากนี้ สไนเดอร์ ยังพาทีมชาติฮอลแลนด์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ก่อนพ่ายต่อ สเปน หวุดหวิด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1 แถมยังได้ตำแหน่งดาวซัลโวร่วมของทัวร์นาเมนต์อีกต่างหาก
อย่างไรก็ดี สไนเดอร์ กลับไม่ได้ลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ในปีดังกล่าวเพราะได้เสียงโหวตน้อยกว่า ลิโอเนล เมสซี่, ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรส อีเนียสต้า ที่ยึดโพเดี้ยม 3 คนสุดท้ายและมาจาก บาร์เซโลน่า ทั้งหมด ก่อนเป็น เมสซี่ ที่ได้รางวัลไปครอง "มันแปลกนะที่ ซามูเอล เอโต้ ไม่เคยได้ บัลลงดอร์ เลยตลอดอาชีพนักเตะ ขณะที่ เวสลี่ย์ (สไนเดอร์) ก็มีฤดูกาลที่สุดยอด เขาได้ทริปเปิ้ลแชมป์และลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศปีเดียวกัน"
"เรา (อินเตอร์ มิลาน) ไปร่วมงานประกาศรางวัลในปี 2010 แต่พวกเขาไม่มีชื่อติด 3 คนสุดท้าย มีเพียงติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี" มูรินโญ่ กล่าว
สำหรับผลโหวตบัลลงดอร์ในปี 2010 สไนเดอร์ ได้อันดับ 4 ที่ 14.48 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ อีเนียสต้า กับ ชาบี เอร์นานเดซ ได้ไป 17.36 และ 16.48 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ส่วน ซามูเอล เอโต้ ได้อันดับ 12 นี่คือ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ สุดยอดกองกลาง ที่ระเบิดฟอร์มเทพในปี 2010 กวาดแชมป์เกือบทุกรายการ แต่ชวดได้รางวัลบัลลงดอร์ อย่างสุดเหลือเชื่อ
หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ชื่อของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ จอมทัพทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นที่โด่งดัง และทุกคนจะต้องคาราวะให้กับความเก่งกาจของนักเตะคนนี้อย่างแน่นอน thehotspotonline.com นับตั้งแต่ที่ ดาวเตะชาวดัตช์ตัดสินใจย้ายจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทัพ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่กัลโช่ เซเรีย อา ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส สไนเดอร์ ก็แปลงร่างจากกองกลางที่เคยฟอร์มตก จ่ายก็ไม่คม ยิงก็ไม่เข้า กลายมาเป็นจอมทัพที่สุดแสนอันตรายของทีม แบบหน้ามือเป็นหลังมือ เลยทีเดียว
แนวรุกของทัพ "งูใหญ่" นั้น สไนเดอร์ ทำหน้าที่เป็นจอมทัพอยู่ด้านหลัง แนวรุกอย่าง ดิเอโก้ มิลิโต้ และ ซามูเอล เอโต้ ซึ่งทั้งสามคนก็ทำหน้าที่เป็นสามประสานที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยเฉพาะกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ทั้งยิง ทั้งจ่าย เปิดเตะมุม ยิงฟรีคิก เป็นแทบทุกอย่างให้กับทีม จนพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แบบไม่เคยมีมาก่อน
Comments