เบลเยียมเชื่อใจ'มาร์ตี้'จ่อจ้างยาวถึง2022

โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ เฮดโค้ชทีมชาติ เบลเยียม ใกล้จะบรรลุข้อตกลงขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไปจนจบฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2022 ณ ประเทศกาตาร์ สยบกระแสลือแยกทางตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานจาก 'เอชเแอลเอ็น สปอร์ต' ว่าแม้ยังไม่มีการยืนยันทางการจากสมาคมฟุตบอล เบลเยียม แต่แหล่งข่าวใกล้กับผู้บริหารองค์กรเผยว่าทุกฝ่ายประทับใจผลงาน มาร์ตีเนซ พร้อมยืดสัญญาอีก 2 ปี เพื่อแข่งรายการสำคัญอย่างชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2021 ซึ่งโดนเลื่อนเพราะโคโรนาไวรัส กับ เวิลด์ คัพ ที่ตะวันออกกลาง

เทรนเนอร์วัย 46 ปี ให้สัมภาษณ์ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่าจะคุม 'ปีศาจแดงแห่งยุโรป' เตะ ยูโร รอบสุดท้ายแน่นอน ซึ่งจับสลากอยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ เดนมาร์ก, ฟินแลนด์ และ รัสเซีย ผลงานของโค้ชสแปนิชนับว่าโชคดีพ่วงบริหารจัดการเก่ง พาทีมขึ้นถึงอันดับหนึ่งฟีฟ่า แรงกิ้ง, เข้ารอบสุดท้ายรายการเมเจอร์จนชิน อย่าง ยูโร รอบคัดเลือกก็ชนะรวด 10 นัด ยิงได้ 40 สกอร์เสียคืนสามเม็ด อดีตผจก.ทีม วีแกน และ เอฟเวอร์ตัน เกือบพา เบลเยียม ถึงนัดชิงฯ เวิลด์ คัพ 2018 แต่พลาดท่าต่อฝรั่งเศส ทำให้บทสรุปทัวร์นาเมนต์ชนะในเกมชิงอันดับสาม ส่วนชุมกำลังยุคทอง เบลเยียม หากเล่นถึงเวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ก็อายุ 30+ ไม่ว่า เอแด็น อาซาร์ ( 31 ปี) หรือ เควิน เดอ บรอยน์ ( 30 ปี)

ผู้จัดทีม โรเบร์โต มาร์ติเนซ ที่เคยเป็นนักเตะมาก่อน

โรเบร์โต มาร์ติเนซ มอนโตลิวหรือ โรเบร์โต มาร์ติเนซ โค้ชที่เคยพาทีมที่กำลังจะตกชั้นในตอนนั้นอย่างวีแกนแอธแลนติกพลิกชนะทีมอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ในรอบชิงเอฟเอคัพปี 2013 ซึ่งทุกสือมองว่ายังไงแชมป์คงเป็นของแมนเชสเตอร์ซิตีอย่างแน่นอน

โรเบร์ มาร์ติเนซ นั้นเกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมปี 1973 ช่วงแรกของการเข้าวงการฟุตบอลนั้นตัวเขาเริ่มเล่นให้กับทีมในบ้านเกิดอย่างทีมเรอัลซาราโกซา แต่ในขณะเป็นนักเตะนักนั้นก็ไม่ได้เป็นนักเตะที่โด่งดังอะไรมากมายเป็นเพียงนักเตะธรรมดาคนหนึ่งตลอดการค้าแข้งเขาเล่นให้กับหลายทีมทั้งในและนอกประเทศรวมไปถึงการเล่นในอังกฤษกับทั้งวีแกนแอธแลนติกและสวอนซีและตัวเขาก็ได้เลิกเล่นในปี 2007 โรเบร์โต้ มาร์ติเนซเริ่มงานโค้ชเมื่อปี 2007 sosep.org หลังจากเลิกเล่นโดยทีมแรกนั้นก็คือสวอนซีทีมที่ครั้งหนึ่งเขาเคยไปค้าแข้งอยู่สมัยยังคงเป็นนักเตะผลงานก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักก่อนที่จะได้ไปคุมทีมวีแกนแอธแลนติกในปี 2009 ในที่นี่ตัวเขาสามารถแสดงฝีไม้ลายไม้อันยอดเยี่ยมได้พาทีมรอดตกชั้นหลายฤดูกาลแต่ในปี 2013 ทีมวีแกนแอธแลนติกของเขาก็ต้องตกไปเล่นในเดอะแชมเปียนชิพ แต่ก็ได้ไปเล่นบอลยุโรปเพราะโคต้าจากการคว้าแชมป์เอฟเอคัพ เมื่อจนฤดูกาลหลัง จากที่เขาโชว์ฝีไม้ลายไม้ไว้นั้นจึงทำให้ตัวเขาไม่ได้ตกชั้นเหมือนกับทีมเพราะตัวเขาได้รับความสนใจจากทีมต่างๆมากมายและทีมที่ได้ตัวเขาไปนั้นก็คือเอฟเวอร์ตัน

หลังจากมาคุมทีมเอฟเวอร์ตันผลงานของเขาในที่นี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรไม่ค่อยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันคงเพียงทีมระดับกลางๆและเมื่อสิ้นฤดูกาล 2015-2016 หลังจากที่เขาพาทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ชนะเพียงนัดเดียวจากสิบนัดในช่วงท้ายฤดูกาล เมื่อจบฤดูกาลนั้นจึงทำให้เขาโดนไล่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมหลังจากนั้นเขาก็ว่างงานได้ไม่นานก็ต้องรับงานใหญ่อีกครั้งในการพาทีมชาติเบลเยียมที่เต็มไปด้วยนักเตะฝีเม้าดีมากมายลุยศึกฟุตบอลโลกปี 2018 ในการคุมทีมครั้งนี้ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากเพราะทีมชาติเบลเยียมนั้นเต็มไปด้วยนักเตะที่ว่ากันว่ามีฝีเท้าดีมากที่สุดทีมหนึ่งอาทิเช่น เควิน เดอ บรอยน์ โรเมลู ลูกากู และอื่น ๆ อีกมากมายในรอบคัดเลือกนั้นเบลเยี่ยมก็ทำผลงานได้ดีไม่มีปัญหาในรอบแบ่งกลุ่มสามารถผ่านเข้ารอบมาเป็นที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย โดยได้ไปอยู่ในกลุ่มจีกับอังกฤษ ปานามาและตูนีเซียและสามารถเข้ารอบ 16 ทีมได้อย่างง่ายได้ และยังสามารถเอาชนะอังกฤษได้อย่างสนุกหนึ่งประตูต่อศูนย์รอบต่อมาต้องเจากับทีมญี่ปุ่นมาร์ติเนซ ก็สามารถพาทีมล้มญี่ปุ่นได้สำเร็จผ่านเข้ารอบแปดทีมมาถึงตรงนี้ทีมชาติเบลเยียมของโรเบร์โต มาร์ติเนซถูกคาดว่าจะถึงแชมป์เพราะด้วยกำลังพลของนักเตะรอบแปดทีมก็สามารถเอาชนะทีมแกร่งอย่างบราซิลได้ 2-1

ต้องมาเจอกับทีมแกร่งอีกทีมอย่างฝรั่งเศษที่เป็นเต็งหนึ่งเบลเยี่ยมไม่สามารถต้านทานได้จึงแพ้ไป1-0 และต้องตกไปชิงที่สามกับคู่ปรับเก่าจากรอบแบ่งกลุ่มอย่างอังกฤษ และก็เอาชนะมาได้คว้าที 3ของฟุตบอลและถือเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ โรเบร์โต มาร์ติเนซ ปัจจุบันเขายังคงคุมทีมชาติเบลเยี่ยมอยู่