เลย48ชม.มานานละนะ! เปิดบันไดหลายขั้นก่อนแมนยูจะได้ "ฟาน เดอ เบ็ค"
- mynxwinter22
- Sep 7, 2020
- 2 min read
ในฤดูกาล 2018-19 อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สร้างความฮือฮาให้กับหลายต่อหลายคนด้วยการไปถึงรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้
โดยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาถึงขั้นคว่ำ เรอัล มาดริด ได้ ส่วนในรอบก่อนรองชนะเลิศก็ผ่าน ยูเวนตุส มาได้ แถมยังเกือบจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศด้วย เพราะในรอบตัดเชือกพวกเขาเสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-3 แต่ต้องมาตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน แน่นอนว่าผลงานระดับนั้นทำให้ มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ กับ เฟรงกี้ เดอ ยอง 2 ดาวเตะของ อาแจ็กซ์ ได้รับคำชมและได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกทั้งที่เดิมทีพวกเขาก็ถูกจับตามองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
ก่อนที่สุดท้ายทั้งคู่จะได้ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 63 ล้านปอนด์ และ บาร์เซโลน่า ที่ค่าตัว 65 ล้านปอนด์ ตามลำดับ กระแสการยกย่อง เดอ ลิกท์ กับ เดอ ยอง มันมากซะจนแทบกลบรัศมีของ ฟาน เดอ เบ็ค ซะหมด ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ อาแจ็กซ์ ชุดนั้นเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครที่ตามจีบ ฟาน เดอ เบ็ค ในตอนนั้นเลย ในช่วงที่ อาแจ็กซ์ ต้องไปเยือน สเปอร์ส ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2018-19 นั้น ทีมตัวแทนของ ฟาน เดอ เบ็ค ไล่เจรจากับตัวแทนจากหลายทีมในเกาะอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น ราอูล ซานล์เยฮี หัวหน้าฝ่ายฟุตบอลของ อาร์เซน่อล ในตอนนั้น, มาริโอ ฮูซิลโลส ผู้อำนวยการฟุตบอล เวสต์แฮม ในตอนนั้น, สตีฟ ฮิทเช่น หัวหน้าแมวมอง สเปอร์ส และ แม็ตต์ จัดจ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาขององค์กรที่ผันตัวกลายไปเป็นหัวหน้าฝ่ายเจรจาด้านการเสริมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดจ์ คือคนที่ 4 ที่ได้เจรจากับตัวแทนของ ฟาน เดอ เบ็ค เมื่อปี 2019 โดยตอนนั้นแต่ละคนที่เจรจากับตัวแทนของ ฟาน เดอ เบ็ค ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่จะพยายามดึงเขาไปร่วมทีมให้ได้ในทันที แต่เป็นเหมือนการสร้างความสัมพันธ์กันเอาไว้ก่อนเท่านั้น ซึ่งด้วยหน้าที่ของ จัดจ์ ทำให้เขาคือคนที่บรรดาตัวแทนนักเตะหรือเอเยนต์อยากทำความรู้จักด้วยเพื่อรับประกันว่าดีลมันจะเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ว่าจะทั้งในรูปแบบการย้ายทีมทันทีหรือในอนาคต หลังจากทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2019 จัดจ์ กับทีมตัวแทนของ ฟาน เดอ เบ็ค ก็พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วยดีมาโดยตลอด จนในที่สุดมันก็มามีผลในปีนี้จากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัว ฟาน เดอ เบ็ค มากขึ้น จนตอนนี้กำลังจะปิดดีลกับเขาได้ด้วยข้อเสนอที่มีค่าตัวรวม 40 ล้านปอนด์ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดังบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยกระดับการให้ความสนใจในตัว ฟาน เดอ เบ็ค เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยตอนนั้นมิดฟิลด์ชาวดัตช์เพิ่งกลับมาจากการพักร้อนที่ประเทศกรีซพอดี ที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมเดียวที่ให้ความสนใจในตัวเขาอยู่ แต่ "ปีศาจแดง" คือทีมเดียวที่ยื่นข้อเสนอแบบจริงจังให้เขาพิจารณา mobemarketplace.com ทั้งนี้ มันไม่ใช่ว่าแค่เห็นชื่อ "แมนฯ ยูไนเต็ด" แล้ว ฟาน เดอ เบ็ค จะตอบตกลงย้ายทีมในทันที เขายืนยันว่าต้องการคุยกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอันดับแรก และหลังจากวางสายไปแล้วนั้น ฟาน เดอ เบ็ค ก็ประทับใจกับสิ่งที่ โซลชา พูดกับเขา อย่างเช่นเรื่องที่ว่า โซลชา จะใช้งานเขาในรูปแบบไหนในการจับเขาลงไปเล่นร่วมกับ ปอล ป็อกบา และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยเป็นที่เชื่อกันว่า โซลชา ยืนกรานอย่างชัดเจนว่านักเตะพรสวรรค์สูงนั้นสามารถทำงานร่วมกันได้อยู่เสมอ นอกจากนี้ มันยังเชื่อกันว่า โซลชา บอกกับ ฟาน เดอ เบ็ค ด้วยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่าปัจจุบัน รวมถึงเน้นย้ำความสามารถในการทำประตูจากแดนกลางของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่โดดเด่นสุดๆ ด้วย
กว่าจะ (จ่อ) ได้ตัว
แน่นอนว่าทั้ง 2 คนคงไม่ได้เสียค่าโทรศัพท์เพื่อคุยถึงแค่เรื่องระบบการเล่น มันยังมีอีกหลายเรื่องที่ตอนนี้คงมีเพียง โซลชา กับ ฟาน เดอ เบ็ค ที่รู้ว่าบทสนทนามีอะไรบ้าง แต่ที่สำคัญก็คือ โซลชา สามารถซื้อใจมิดฟิลด์ชาวดัตช์ได้จนทำให้เขามีใจให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยเกือบจะแห้ว ฟาน เดอ เบ็ค เหมือนกัน เพราะที่จริงในช่วงท้ายฤดูกาล 2018-19 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เคยพยายามที่จะขอซื้อ ฟาน เดอ เบ็ค และนัดหารือกับทีมตัวแทนของดาวเตะดีกรีทีมชาติฮอลแลนด์ แต่สุดท้าย "เสือเหลือง" ก็ไม่คิดที่จะสู้ค่าตัวของเขา
ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริด ก็เคยเดินเครื่องล่าตัวมิดฟิลด์ชาวดัตช์เช่นกัน แถมยังเกือบจะปิดดีลได้แล้วด้วย เพราะตอนแรก มาดริด สัญญาแบบปากเปล่าว่าจะจ่ายค่าตัวโดยรวมให้กับ อาแจ็กซ์ เป็นจำนวน 50 ล้านปอนด์ ซึ่ง อาแจ็กซ์ ก็พร้อมที่จะขายในราคานั้น แต่ฝั่ง "ราชันชุดขาว" จำเป็นต้องโละนักเตะในทีมชุดใหญ่บางคนออกไปให้ได้ก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้จนทำให้ดีลนั้นไม่เกิดขึ้นจริง ความจริงหลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว มาดริด ก็ยังไม่ได้ตัดใจจาก ฟาน เดอ เบ็ค และเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาพวกเขาเคยบรรลุข้อตกลงที่จะเซ็นสัญญากับ ฟาน เดอ เบ็ค โดยจะให้การย้ายทีมมีขึ้นหลังจบฤดูกาล 2019-20 และมันก็มีการเซ็นสัญญากันแล้วด้วย โดยเหลือเพียงการตรวจร่างกายเท่านั้น แต่แล้ว มาดริด ก็เปลี่ยนใจล้มดีลนี้เองเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 มันทำให้การเงินของทีมได้รับผลกระทบอย่างมาก "เขาเคยคิดว่าหนนี้จะได้ย้ายทีม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่แล้วมันกลับไม่เกิดขึ้นจริง" วงในรายหนึ่งที่อ้างว่าใกล้ชิดกับ ฟาน เดอ เบ็ค ระบุ เดชะบุญที่ถึงแม้ทีมตัวแทนของ ฟาน เดอ เบ็ค จะบรรลุข้อตกลงแบบปากเปล่ากับ มาดริด ไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคุยกับทีมอื่นๆ อย่างเช่น แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนเหมือนกัน และถึงแม้ สเปอร์ส กับ บาร์ฌซโลน่า จะให้ความสนใจในตัว ฟาน เดอ เบ็ค อย่างจริงจังเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่หลังจากได้คุยกับ โซลชา แล้วนั้น ทีมงานของ ฟาน เดอ เบ็ค ก็ตัดสินใจว่าอนาคตของ ฟาน เดอ เบ็ค จะอยู่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วงในที่ใกล้ชิดกับ ฟาน เดอ เบ็ค อ้างถึงสาเหตุที่ทำให้ ฟาน เดอ เบ็ค ตกหลุมรักคำพูดของ โซลชา ว่า "โค้ชทุกคนสามารถพูดได้ว่าพวกเขาอยากได้คุณ แต่โค้ชที่พิเศษมากๆ น่ะคือคนที่จะอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องการคุณ และ โอเล่ ก็โน้มน้าวใจ ดอนนี่ ได้อย่างเต็มที่" อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่ามีแค่ โซลชา ที่ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้ โดยว่ากันว่า รอย บิวเคนแคมป์ แมวมองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำหน้าที่ตามหาแข้งเก่งๆ ในประเทศฮอลแลนด์ก็มีส่วนช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับทีมงานของ ฟาน เดอ เบ็ค ดีขึ้นจนมีส่วนทำให้ดีลนี้สำเร็จด้วยดี อีกหนึ่งคนที่มีส่วนช่วยทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สมหวังไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตผู้รักษาประตูคนเก่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้เป็นประธานบริหารของ อาแจ็กซ์ เพราะเขาบอกกับทั้ง ฟาน เดอ เบ็ค และ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่านี่จะเป็นการย้ายทีมที่ส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ ดาเล่ย์ บลินด์ อดีตดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตอนนีเป็นรุ่นพี่ของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ อาแจ็กซ์ ก็ให้คำแนะนำเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ลือกันว่า เดนนิส เบิร์กแคมป์ ตำนานกองหน้าของ อาร์เซน่อล และบิดาของ เอสเทลล์ แฟนสาวของ ฟาน เดอ เบ็ค ก็แนะนำให้เขาไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก เหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมที่ เบิร์กแคมป์ แนะนำให้ ฟาน เดอ เบ็ค ย้ายไปอยู่ด้วยรึเปล่า
Comments