แทมมี อับราฮัม กองหน้าดาวรุ่ง อันดับหนึ่งปี 2019
- mynxwinter22
- Jan 8, 2020
- 2 min read
แทมมี่ อับราฮัม (Tammy Abraham) เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1997 เขาเติบโตมาในเมืองเล็กๆ ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงวัยเรียน เขามีทักษะในเรื่องของการแสดงเป็นอย่างมาก ซึ่งครูสอนการแสดงของเขาได้เคยออกมาบอกกับพ่อและแม่ของเขาว่า หาก แทมมี่ เอาจริงเอาจังทางด้านการแสดงนั้น เขาสามารถที่จะไปได้ไกลเลยทีเดียว
แต่ด้วยสังคมได้นำพาให้เขาได้มารู้จักกับกีฬาฟุตบอล โดยวัย 8 ขวบ แทมมี่ อับราฮัม ได้เข้าคัดตัวกับทางอคาเดมี่ของสโมสรเชลซี โดยในตอนแรกนั้น เขาต้องทำการตัดสินใจระหว่าง อาร์เซน่อล และ เชลซี แต่เพราะเขามี ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นไอดอลและพร้อมที่จะเจริญรอยตามแบบของศูนย์หน้าตำนานเชลซี แต่จากการตัดสินใจย้ายเขามาฝึกฝนวิชาฟุตบอลกับอคาเดมี่ของสโมสรเชลซี ดูเหมือนจะไม่ง่ายนัก เพราะสโมสรแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสโมสรที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเด็กดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาติดที่ชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ แต่ แทมมี่ ก็ยังทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมกว่านักเตะรุ่นเดียวกัน
จนทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาได้เข้าไปสะดุดตาของ กุส ฮิดดิ้งค์ ผู้จัดการทีมในเวลานั้น และพาเขาขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ทันที แต่ก็ไม่สามารถที่จะแทรกตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งได้ เขาจึงถูกปล่อยตัวให้กับทางสโมสร บริสตอล ซิตี้ ยืมตัวไปในปี 2016
สโมสร บริสตอล ซิตี้
จากการที่ กุส ฮิดดิ้งค์ ได้เห็นฟอร์มการเล่นของ แทมมี่ อับราฮัม แล้วก็สนใจที่จะให้นักเตะดาวรุ่งรายนี้ขึ้นมาฝึกซ้อมกับนักเตะทีมชุดใหญ่ แต่ด้วยความที่เขายังคงมีอายุน้อยและไม่เคยมีประสบการณ์ในเกมการแข่งขันแบบจริงๆ จังๆ ทางสโมสรจึงตัดสินใจที่จะส่งตัวเขาไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทางสโมสร บริสตอล ซิตี้ ในฤดูกาล 2016-2017
แทมมี่ ย้ายมาร่วมทีมกับทาง บริสตอล ซิตี้ แบบไร้ความกดดัน เพราะเขาเพราะแค่ต้องการที่จะเล่นฟุตบอลและทำผลงานออกมาให้ได้ดีที่สุดเพื่อเดินทางกับไปที่ต้นสังกัดให้ได้ในเร็ววัน ซึ่งเขาก็ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จากการลงเล่นไปทั้งสิ้น 41 นัด เขาสามารถทำไปได้ถึง 23 ประตู ก่อนจะถูกโหวตจากนักเตะรุ่นพี่ภายในทีมและกลายเป็น นักเตะยอดเยี่ยมและดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร บริสตอล ซิตี้ ไปในซีซั่นนั้น ก่อนที่จะกลับไปยันสโมสรเชลซีตอนสิ้นสุดฤดูกาล และถูกปล่อยตัวให้กับทาง สวอนซี ซิตี้ ยืมในซีซั่นถัดไป
สโมสร สวอนซี ซิตี้
ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2017 สโมสรเชลซีได้ออกมาประกาศว่า “ทางสโมสรได้มอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับดาวยิงอนาคตไกลอย่าง แทมมี่ อับราฮัม เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี” ก่อนในวันต่อมาทาง เชลซี จะปล่อยตัวเขาให้ทาง สโมสร สวนซี ซิตี้ ยืมตัวไปอีกหนึ่งปี
เขาเปิดตัวกับการลงเป็นตัวจริงให้กับทาง สวอนซี แต่ก็ทำได้เพียงแค่เสมอกับทาง เซาแธมป์ตัน ไป 0-0 จนกระทั่งอีกสิบวันต่อมาเขาได้โอกาสลงสนามเป็นตัวสำรองและสามารถทำประตูแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ ก่อนที่ สวอนซี ซิตี้ จะเอาชนะ เอ็มเค ดอนส์ ไปได้ 4-1 ในเกมลีกคัพ ก่อนที่เขาจะสามารถทำประตูแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และพาทีมเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้ถึง 2-0
หลังจากที่ทำผลงานกับทางสโมสร สวอนซี ซิตี้ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วนั้น เขาเริ่มมีชื่อติดเป็น 11 ตัวจริงบ่อยครั้งมากขึ้น ก่อนที่เขาจะได้รับอาการแบบเจ็บ ส่งผลให้ต้องพักรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไม่สามารถช่วยทาง สวอนซี ซิตี้ ให้อยู่รอดเป็นลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษได้ ทำให้สวอนซี ซิตี้ ต้องตกชั้นไปเล่นในลีก แชมเปี้ยนส์ชิพ
จากผลงานการลงสนามให้กับทาง สวอนซี ซิตี้ จะออกมาไม่สวยหรูเท่าที่ควร ทำให้ทางบอร์ดบริหารทาง สโมสรเชลซียังคงไม่ประทับใจฟอร์มเขาเท่าที่เขา จึงทำให้ ในฤดูกาลต่อมา แทมมี่ ต้องเก็บกระเป๋าออกเดินทางเพื่อหาประทับการณ์อีกครั้ง
สโมสร แอสตัน วิลล่า
หลังจากที่เขากลับมาที่สโมสร เชลซี ทางด้านนายใหญ่ของทางสโมสรอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ได้ออกมาระบุผ่านสื่อว่า แทมมี่ อับราฮัม อยู่ในแผนการทำทีมของเขาอย่างแน่นอน แต่หลังจากจบเกม เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ เขาก็ถูกส่งตัวไปให้กับทาง แอสตัน วิลล่า ยืมไปใช้งานอีก 1 ฤดูกาล
อย่างไรก็ตามการย้ายมาร่วมกับทางสโมสร แอสตัน วิลล่า ทำให้ แทมมี่ อับราฮัม กลับมาทำผลงานอันสุดยอดได้อีกครั้ง จากการทำไปได้ถึง 26 ประตู จากการลงสนามไปทั้งหมด 37 นัด จนสามารถพาทางสโมสรก้าวขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้สำเร็จ
แต่ความฝันสูงสุดของตัวเขานั้น ก็ยังคงเป็นการได้รับใช้สโมสรเชลซี เช่นเดียวกับทาง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ไอดอลของเขา ซึ่งตัวของ แทมมี่ อับราฮัม ก็ยังคงรอที่จะได้รับโอกาสนั้นต่อไป
สโมสร เชลซี
จากปัญหาภายในของสโมสรเชลซี ที่ทำผิด กฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ทำให้สโมสรเชลซีไม่สามารถซื้อตัวนักเตะเขามาเสริมทัพได้ เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ทำให้ทางบอร์ดบริหารได้ทำการแต่งตั้งกุนซือระดับตำนานของสโมสรอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำให้เขากลับมามีความหวังอีกครั้ง
โดย แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้เรียกเขาเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวแล้วบอกกับเขาว่า “ในซีซั่นนี้เขาจะได้อยู่กับทางสโมสร และจะไม่ถูกส่งตัวไปเล่นให้กับทีมไหนอีก ขอให้เขาทำผลงานออกมาให้เต็มที่”
ในช่วงแรกของฤดู 2019-2020 ได้เริ่มขึ้น ผลงานการลงสนามของออกมาไม่สวยหรูเท่าที่ควรนัก จึงทำให้เขาถูกสื่อและแฟนบอลออกมาประนามเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลต่อผลงานในสนามของเขาเป็นอย่างที่สุด จนกระทั่งเขาพลาดจุดโทษในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่พ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ทำให้เขาถูกแฟนบอลกลุ่มเล็กๆ เหยียดสีผิว และหนักขึ้นถึงขั้นขู่ฆ่าเอาชีวิตเลยทีเดียว
หลังจากนั้น เขาก็ได้รับกำลังใจจากคนในครอบครัวและนักฟุตบอลชื่อดังอย่างมากมาย ทำให้เขากลับมามีแรงที่จะสู้กลับเรื่องดังกล่าวได้ จนเขากลับมาทำประตูได้ในเกมพรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน รวมถึง 7 ประตู โดยเฉพาะเกมที่กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เพราะเขาสามารถทำ3 ประตูได้สำเร็จ ส่งผลให้ แทมมี่ อับราฮัม กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกให้กับทีม ด้วยอายุ 21 ปี กับอีก 347 วัน หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นศูนย์หน้าดาวยิงที่สโมสรเชลซีขาดไม่ได้แล้ว
ทีมชาติ อังกฤษ
ก่อนที่เขาจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษนั้น เขาเคยถูกทาบทามให้เข้ามาเป็นนักเตะให้กับทีมชาติไนจีเรีย เนื่องจาก เขามีเชื้อสายเป็นชาวไนจีเรียจากผู้เป็นพ่อ แต่อย่างไรก็ตาม แทมมี่ อับราฮัม ก็ได้ออกมาแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่า “เขาจงรักภักดีและให้เกียรติกับทั้ง 2 ประเทศนี้ เพราะถือได้ว่าเป็นทั้งประเทศพ่อและแม่ของเขา แต่สุดท้ายแล้วเขาคงจะต้องของเลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ เพราะความถนัดในสไตล์การเล่นของตัวเอง”
หลังจากนั้น ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2017 แทมมี่ อับราฮัม ได้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เพื่อลงทำการแข่งขันในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติเยอรมนีและบราซิล ที่สนามเวมบลีย์
ต่อมาในเดือนตุลาคม 2019 เขาได้รับโทรศัพท์จากนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษอย่าง แกเร็ท เซาท์เกต ให้เขาเข้าร่วมทีมในเกมการแข่งขันรอบคัดเลือก ฟุตบอล ยูโร 2020 ทำให้เขาลงสนามกับทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก และสามารถทำประตูแรกให้กับตัวเองในนามทีมชาติได้สำเร็จ ในเกมที่ ทีมชาติอังกฤษ มีชัยชนะเหนือ ทีมชาติมอนเตเนโกร 7-0
เกียรติประวัติส่วนตัว
Bristol City Young Player of the Season : 2016–2017
Bristol City top scorer : 2016–2017
PFA Fans’ Championship Player of the Month : August/September 2016
Championship Player of the Month : November 2018
Championship Team of the Year : 2018–2019
รับชมข่าวสารวงการกีฬาต่อได้ที่ trigsol.com
Comments