''โค้ชโต่ย''พร้อมลุยงานปั้นอะคาเดมี่บีจีให้แข็งแกร่ง

''โค้ชโต่ย'' ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เผยเป็นเกียรติมากที่ได้รับแต่งตั้ง นั่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตั้งเป้าหมายปลุกปั้นอะคาเดมี่เพื่อพัฒนาเด็กสู่ทีมใหญ่

''โค้ชโต่ย'' ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย อดีตกุนซือทีมชาติไทยและอดีตกุนซือโอสถสภา เอ็ม150 เผยผ่านผู้สื่อข่าวกับการที่ได้แต่งตั้งให้มาร่วมงานกับทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสโมสร ซึ่ง โค้ชโต่ย เผยว่า

''ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้รับโอกาสจากท่าน ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ให้ผมเข้ามาช่วยงาน ซึ่งที่คุยกันคร่าวๆ คือผมจะไปเป็นผู้ช่วย ''ผอ.ง้วน'' สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสโมสร arisapps.com ซึ่งหน้าที่ก็คือดูทั้งอะคาเดมี่และก็ดูเด็กๆ ต่างรวมถึงการดูนักเตะที่จะเอาเข้ามาพัฒนาสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ให้เป็นทีมที่แข็งแกร่งและเป็นทีมชั้นนำในอนาคต''

โค้ชโต่ย ยังเผยอีกด้วยว่า

''ถ้าเรื่องทีมใหญ่ก็จะเป็นหน้าที่ของ ''โค้ชโอ่ง'' ดุสิต เฉลิมแสน ส่วนตัวผมเองก็จะคอยซับพอร์ตเรื่องผู้เล่นอะคาเดมี่ ผมเองคิดว่าถ้าโครงสร้างของเยาวชนมีความแข็งแกร่ง วันข้างหน้ามีความแข็งแรง ก็อาจจะเป็นประโยชน์กับทีมใหญ่ที่อาจจะใช้งบประมาณน้อยลงในการซื้อตัวผู้เล่น''

''ตอนนี้ผมเริ่มเข้าไปทำงานที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บ้างแล้วครับ โดยไปติดตามดูน้องๆ ของสโมสรราชประชาในไทยลีก 3 ซ้อม ซึ่งเป็นทีมพันธมิตรของบีจีด้วย พร้อมกับได้ไปพูดคุยกับทาง ผอ.ง้วน บ้างแล้วด้วยครับ'' ผู้สื่อข่าวสอบถาม โค้ชโต่ย กับประเด็นความเห็นส่วนตัวกับฟุตบอลไทยที่กำลังโดนวิกฤต โควิด-19 เล่นงาน สร้างผลกระทบไปทั่วทุกภาคส่วน โดย โค้ชโต่ย เผยว่า ''ตัวผมเองก็กังวลเหมือนกันครับ ผมกลัวว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือ สปอนเซอร์ หรือถ้าเกิดวิกฤตอีกครั้ง ผมดูแล้วว่า นักเตะและโค้ชอีกหลายๆ ทีมจะตกงาน และอาจจะทำให้สถาพของฟุตบอลไทยเป็นแบบเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว''

''ตรงนี้ผมคิดว่าเราต้องมองไปตั้งแต่ภาครัฐบาล จะมาช่วยเหลือต่างๆ โดยเฉพาะการจัดการแข่งขัน ว่าทำอย่างไรให้มันคลี่คลายออกมาในทางที่ดีที่จะทำให้สปอนเซอร์ไม่ถอน ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็พอได้ยินข่าวมาบ้างว่าหลายๆ ทีมอาจจะยุบไป เพราะว่าโควิด-19 มา ทำให้สปอนเซอร์หาย งบประมาณที่จะใช้ทำทีมขาดหายไป''