ไม่ใช่แค่ ร็อบเบน และ สโคลส์! ย้อนดู 3 นักเตะดังกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพ

หลังจากที่ อาร์เยน ร็อบเบน เคยให้สัมภาษณ์ว่าสนใจที่จะกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง ภายหลังแขวนสตั๊ดกับ บาเยิร์น มิวนิค ไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน

ในที่สุดเขาก็กลับมาสวมสตั๊ดอีกครั้งจริงๆ โดยเป็นกับ โกรนิงเก้น ทีมในประเทศฮอลแลนด์ซึ่งถือเป็นทีมแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพของเขา แน่นอน การที่นักเตะเปลี่ยนใจกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพมันเป็นเรื่องหาได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ โดยกรณีที่โด่งดังที่สุดที่แฟนบอลหลายคนคงจำได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือการที่ พอล สโคลส์ ตำนานกองกลางชาวอังกฤษกลับมาเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่เคยแขวนสตั๊ดไปแล้วนั่นเอง

ทั้งนี้ นอกจาก สโคลส์ และ ร็อบเบน แล้วนั้น มันยังมีนักฟุตบอลชื่อดังอีกหลายคนที่ตอนแรกหันหลังให้กับชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ แต่สุดท้ายก็กลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง และวันนี้เราก็จะมายกตัวอย่างที่เด่นๆ สัก 3 คนกัน - เยนส์ เลห์มันน์ (เลิกเล่นปี 2008 กลับมาปี 2010) เลห์มันน์ เล่นให้กับทั้ง ชาลเก้ 04, เอซี มิลาน, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, อาร์เซน่อล และ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ตลอดช่วงภาคแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพของเขา ซึ่งเขาก็ประบสความสำเร็จในระดับหนึ่ง อย่างเช่นการได้แชมป์ลีกกับทั้ง เอซี มิลาน (แม้ว่าจะได้เล่นในลีกไปเพียง 5 นัด), ดอร์ทมุนด์ และ อาร์เซน่อล ก่อนที่เขาจะแขวนถุงมือปีในปี 2010 ในตอนที่อยู่กับ สตุ๊ตการ์ท อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงเดือนมีนาคม ปี 2011 เลห์มันน์ ก็กลับมาสวมถุงมืออีกครั้ง โดยเป็นการเล่นให้กับ อาร์เซน่อล เนื่องจากตอนนั้น "ไอ้ปืนใหญ่" กำลังเจอกับวิกฤติในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะมีนายด่านระดับทีมชุดใหญ่ที่ฟิตแค่คนเดียว นั่นคือ มานูเอล อัลมูเนีย ซึ่งที่จริงแล้ว อัลมูเนีย กับ เลห์มันน์ เคยไม่กินเส้นกันมาก่อน ถึงกระนั้น นายด่านชาวเยอรมันก็มีความเป็นมืออาชีพมากพอที่จะมองข้ามเรื่องนั้น และเซ็นสัญญากับทีมจนจบซีซั่น 2010-11 และเขาก็ได้ลงเล่นในเกมที่เจอกับ แบล็คพูล ด้วย

อัลมูเนีย ได้รับบาดเจ็บตอนอบอุ่นร่างกาย น่าเสียดายที่นั่นเป็นเพียงนัดเดียวที่เขาได้ลงเล่นในภาคสองกับ อาร์เซน่อล และพอจบฤดูกาลนั้นเขาก็แขวนถุงมือแบบตลอดกาล

- มาร์ค โอเวอร์มาร์ส (เลิกเล่นปี 2004 กลับมาปี 2008) โอเวอร์มาร์ส คือหนึ่งในนักเตะฮอลแลนด์ฝีเท้าดียุคที่มีเพชรเม็ดงามโผล่มาเต็มไปหมด แต่ปีกชาวดัตช์มีข้อเสียอยู่ 1 อย่าง นั่นคือเขาโดนอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่าเล่นงานอย่างต่อเนื่องในตอนที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า จนสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2004 ทั้งที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 31 ปีเท่านั้น

ทั้งนี้ ในอีกราว 4 ปีต่อมา โอเวอร์มาร์ส ได้ตอบรับคำเชิญเล่นเกมเทสติโมเนียลแมตช์ให้กับ ยาป สตัม เพื่อนรักคนหนึ่งของเขา ซึ่งวันนั้น โอเวอร์มาร์ส ในวัย 35 ปี เล่นได้โดดเด่นมากๆ จนทำให้มีทีมในฮอลแลนด์และเยอรมนีที่พยายามโน้มน้าวให้เจ้าตัวกลับมาเป็นนักเตะอาชีพ และเซ็นสัญญากับพวกเขา โดยที่ตอนแรก โอเวอร์มาร์ส ปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไป ถึงกระนั้น สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถสู้กับแรงดึงดูดของการกลับไปเตะฟุตบอลได้ จนสุดท้ายในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2008 เขาก็ตัดสินใจเล่นให้กับ โก อเฮด อีเกิ้ลส์ ทีมในฮอลแลนด์ buy-instagram.com แต่สุดท้ายอาการเดี้ยงตรงหัวเข่าก็ตามมาเล่นงานเขาอีกจนทำให้เขาได้เล่นกับทีมแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น - โยฮัน ครัฟฟ์ (เลิกเล่นปี 1978 กลับมาปี 1978) ตอนที่ ครัฟฟ์ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 1978 นั้น หลายคนนึกเสียดายไม่น้อย เพราะเขาเพิ่งมีอายุแค่ 31 ปีเท่านั้น โดยตอนนั้นเขาโลดแล่นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพไป 14 ปี แบ่งเป็นการอยู่กับ อาแจ็กซ์ ระหว่างปี 1964-1973 และกับ บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1973-1978 อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่นานหลังจากนั้น ครัฟฟ์ ก็ประกาศกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพแบบที่หลายคนไม่ทันตั้งตัว โดยทีมแรกที่เขาเล่นให้ในภาคสองของการเป็นนักเตะอาชีพคือ ลอสแองเจลิส แอซเท็คส์ ทีมในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่หลังจากนั้นจะไปเล่นให้ วอชิงตัน ดิพลอแม็ตส์, เลบันเต้, อาแจ็กซ์ และ เฟเยนูร์ด แล้วจากนั้นก็แขวนสตั๊ดรอบสองในปี 1984

ทำไมนักเตะเทวดาระดับเขาถึงกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพงั้นเหรอ ? คำตอบง่ายๆ มันเป็นเพราะเขาโดนหลอกให้ไปลงทุนกิจการหลายอย่างในสเปน แต่ไม่มีอันไหนที่ทำเงินได้ดีเลย จนทำให้เขาถึงกับถังแตก โดยเขาเปิดใจเองเลยว่า "ผมเสียเงินไปหลายล้านกับฟาร์มเลี้ยงหมู และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง"